เสื้อโปโลเป็นเสื้อที่ใส่แล้วดูดีสุดๆ ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลอง เสื้อพนักงาน หรือแม้แต่ชุดใส่เที่ยวทั่วไป แต่คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว เสื้อโปโลไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นกีฬาเทนนิส ก่อนที่จะพัฒนาและกลายเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ต้นกำเนิดเสื้อโปโล จากสนามเทนนิส
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นักเทนนิสมักสวมใส่เสื้อแขนยาวที่ทำจากผ้าฝ้าย และกางเกงขายาว ซึ่งไม่เหมาะกับการเคลื่อนไหวในสนามเทนนิสเท่าไรนัก เสื้อเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกร้อน แต่ยังจำกัดความคล่องตัวของผู้เล่น
ฌอง เรอเน ลากอสต์ (Jean René Lacoste) นักเทนนิสชื่อดังชาวฝรั่งเศส ไม่พอใจกับชุดเทนนิสที่เขาใส่อยู่ เขาจึงออกแบบเสื้อที่ใส่แล้วเล่นกีฬาได้สะดวกขึ้น
ต่อมาในปี 1926 ลากอสต์เปิดตัว เสื้อเทนนิสแขนสั้นที่ทำจากผ้าฝ้ายปิเก้ (Piqué Cotton) มีลักษณะเป็นเสื้อแขนสั้น มีคอปกอ่อน มีกระดุมหน้า และชายเสื้อด้านหลังสั้นกว่าด้านหน้า และยังเป็นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
นักกีฬาขี่ม้าโปโล หันมาใส่เสื้อคอปกแขนสั้น จนได้ชื่อว่าเสื้อ POLO
แต่เดิมกีฬาขี่ม้าโปโล ใช้เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่มีปกติดกระดุมเพื่อป้องกันปกเสื้อปลิวขณะขี่ม้า แต่เมื่อได้ลองใส่เสื้อของลากอสต์ ก็พบว่าใส่สบายกว่า จะเคลื่อนไหวง่ายขึ้น นักกีฬาขี่ม้าโปโลจึงหันมาใส่เสื้อแบบนี้แทน
จนมาในช่วงปี 1950 ราล์ฟ ลอเรน (Ralph Lauren) ได้นำเสื้อชนิดนี้มาออกแบบใหม่และใช้แบรนด์ “Polo Ralph Lauren” พร้อมกับใช้ชื่อว่า “เสื้อ polo” จึงทำให้เสื้อชนิดนี้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “เสื้อโปโล” ในปัจจุบันแม้ว่ามันจะมีต้นกำเนิดจากกีฬาเทนนิสก็ตาม
บทสรุป
แม้ว่าเสื้อโปโลจะเป็นเสื้อแฟชั่นที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเสื้อแฟชั่นตั้งแต่แรก จุดเริ่มต้นของเสื้อโปโลมาจากกีฬาเทนนิส และถูกปรับปรุงให้เหมาะกับกีฬาขี่ม้าโปโลในภายหลัง จนกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบันและทุกคนรู้จักกันในนาม เสื้อ POLO นั่นเอง
